วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ประวัติ "หลวงพ่อขาว วัดประสพ"


❉ พระครูประจักษ์วรคุณ (หลวงพ่อขาว นีลวณฺโณ) วัดประสพ ❉

✺ ประวัติ

ท่านพระครูประจักษ์วรคุณ อดีตเจ้าอาวาส วัดประสพ, เจ้าคณะตำบล และ พระอุปัชฌาย์ ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เดิมท่านชื่อ ขาว นามสกุล จันทร์มณี เป็นบุตรเพียงคนเดียวของ นายแจ้ง และ นางพุ่ม จันทร์มณี เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ในพื้นที่ตำบลท่าทอง
เมื่อกระทั่งอายุได้ ๑๕ ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๗ ณ พัทธสีมา วัดประสพ
จนกระทั่งอายุท่านครบวัยอุปสมบทฯ ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ณ พัทธสีมา วัดประสพ
ท่านได้รับฉายาว่า " นีลวณฺโณ "

✺ สมณศักดิ์ และ การปกครอง

✢ พ.ศ. ๒๔๗๐ 👉 ท่านได้เข้าศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดจันทาวาส ตำบลท่าทอง จนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี
✢ พ.ศ. ๒๔๗๔ 👉 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดประสพ (ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดประสพ)
✢ พ.ศ. ๒๔๘๒ 👉 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะตำบล(หมวด)ท่าอุแท และ พ้นตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๙ เนื่องจากได้รับการปรับเปลี่ยนไปรับตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลท่าทอง แทน
✢ พ.ศ. ๒๔๘๙ 👉 ท่านได้รับตำแหน่ง คณะกรรมการสงฆ์ องค์การสาธารณูปการ อำเภอกาญจนดิษฐ์ (พ้นจากตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ เพราะได้ลาออก)
✢ พ.ศ. ๒๔๙๙ 👉 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตรที่ " พระครูประจักษ์วรคุณ " เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ในยุคสมัยของรัชกาลที่ ๙
✢ พ.ศ. ๒๕๐๕ 👉 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌายะ เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ประจำเขตตำบลท่าทอง จนถึง วันมรณภาพ

✺ การส่งเสริมการศึกษา การพัฒนาฯ และ การปกครอง

ด้านการส่งเสริมการศึกษา ท่านได้บริหารจัดการโดยการผนวกรวม วัดประสพและวัดขนุน เข้าด้วยกันมีเนื้อที่ประมาณ ๒๘ ไร่ โดยภายในบริเวณดังกล่าวได้จัดตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา เปิดดำเนินการสอนนักเรียน ตั้งแต่ ป.๕ ถึง ม.ศ.๓ ในนามของวัดชื่อ " โรงเรียนประจักษ์วิทยาคม " และได้ย้ายโรงเรียนประชาบาลวัดจันทร์ มาตั้งที่วัดประสพโดยให้ชื่อว่า " โรงเรียนวัดประสพ "
ทั้งนี้เพื่อจะได้เป็นสถานที่ศึกษาของเหล่าบุตรหลานของชาวตำบลท่าทองและตำบลใกล้เคียง เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการศึกษาในชุมชนและยังช่วยเป็นการตัดทอนรายจ่ายของเหล่าผู้ปกครองนักเรียนที่ไม่ต้องส่งบุตรหลานไปศึกษาเล่าเรียนในพื้นที่ห่างไกลออกไป
นอกจากท่านได้จัดการเรื่องการศึกษาแล้ว ท่านยังได้ทำการบูรณะเสนาสนะในวัดที่ชำรุดทรุดโทรมไป อาทิ อุโบสถก็ได้มีการซ่อมแซมบูรณะขึ้นใหม่จนใช้การได้เป็นอย่างดีในยุคนั้น ต่อจากนั้นท่านได้ชักชวนญาติโยม อุบาสก-อุบาสิกา ร่วมกันปลูกสร้างโรงธรรม หอฉัน กุฏิ และอื่นๆอีกหลายอย่าง โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยความสามัคคียิ่งจนทุกสิ่งทุกอย่างก็สำเร็จเสร็จสิ้นได้ทั้งมวล
หลวงพ่อขาวได้สร้างคุณงามความดีไว้อย่างมากในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง การพัฒนาฯ การให้ความเมตตาอนุเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านและชุมชนฯ ตลอดทั้งผู้คนที่เดินทางมาหาท่านอย่างต่อเนื่องทั้งในท้องที่และตำบลใกล้เคียงด้วยความเมตตาอย่างยิ่งจนเป็นที่เคารพรักและเลื่อมใสศรัทธาของสานุศิษย์ทั้งใกล้ไกล
ส่วนด้านการปกครองพระภิกษุ สามเณรในวัด หลวงพ่อท่านก็ได้ปกครองแบบเมตตาธรรม จนเป็นที่เคารพนับถือเลื่อมใสศรัทธาจากบรรดาพระภิกษุ-สามเณร ทั้งหลายทั่วกัน

✺ กาลมรณภาพ
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ หลวงพ่อท่านได้ป่วยลงด้วยโรคปอดอักเสบ จึงได้มาทำการรักษา ณ โรงพยาบาลสงฆ์ จนอาการป่วยต่างๆทุเลาดีขึ้นแล้ว
ท่านจึงได้เดินทางกลับวัดประสพ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และหลังจากที่กลับไปอยู่วัดประสพได้ประมาณ ๓ เดือนเศษแล้ว ท่านได้เกิดป่วยอีกครั้ง
เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนอื่น ท่านจึงได้มาทำการรักษาใหม่ ณ โรงพยาบาลศิริราช ครั้งนี้ทางแพทย์ได้ตรวจพบว่า ท่านเป็นโรคมะเร็งในปอด
ซึ่งก็สุดความสามารถของแพทย์ที่จะทำการรักษาให้หายได้ ท่านจึงได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕
และหลวงพ่อท่านได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ เวลา ๑๖.๐๐ น. เศษโดยประมาณ รวมอายุได้ ๗๒ ปี พรรษา ๕๑
เหตุการณ์ในครั้งนั้นยังความโศรกเศร้าเสียใจแก่ศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้ไกลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตลอดที่ท่านครองผ้ากาสาวพัสตร์ท่านได้ปฏิบัติภารกิจของสงฆ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่องและไม่สั่งสมซึ่งทรัพย์สินใดๆจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต นับได้ว่าท่านพระครูประจักษ์วรคุณ (หลวงพ่อขาว นีลวณฺโณ) ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนและเป็นซึ่งปูชนียบุคคลในวงการพระพุทธศาสนา ณ ลุ่มน้ำคลองท่าทองอย่างแท้จริง 🙏


ก่อนกาลมรณภาพ
ก่อนกาลที่หลวงพ่อท่านจะมรณภาพนั้น ศิษย์ที่ได้รับใช้ดูแลรักษาพยาบาลท่านได้กราบเรียนต่อท่านว่า "ถ้าอาจารย์ดับฯ(มรณภาพ) ในขณะนี้ทางวัดจะลำบากมาก"
ท่านได้ถามว่า "เพราะเหตุอะไร"
ศิษย์ก็ตอบว่า "เพราะทางวัดไม่มีเงินเลย การจัดงานศพของพระคุณท่านจะไม่สะดวก"
ท่านจึงพูดว่า "พวกเธออย่าตกใจเลย เรื่องการเงินเตรียมรับไว้ให้ดีก็แล้วกัน เงินทองมันมาเอง"
ศิษย์พูดต่อไปว่า "นอกจากเงินทองแล้ว ไหนจะต้องหล่อรูปของพระคุณท่านไว้เป็นที่ระลึกอีก"
ท่านตอบทันทีว่า "รูปของเราไม่ต้องหล่อมันแข็งเองอยู่แล้ว"
และเมื่อหลังจากที่หลวงพ่อท่านได้มรณภาพไปแล้วปรากฏว่า ร่างสังขารของท่านก็แข็งมากตามที่ท่านได้กล่าวไว้ จนเป็นกล่าวขานกันไปในตอนนั้นว่า ร่างของหลวงพ่อขาวแข็งเป็นหิน(แข็งแกร่งดั่งหิน)และร่างของหลวงพ่อท่านก็ไม่ได้เน่าเปื่อยอีกด้วย ส่วนเรื่องเงินทองนั้นหลังจากที่ทางวัดได้จัดงานศพท่านเรียบร้อยแล้วทางวัดยังมีเงินเหลืออีกเกือบสองหมื่นบาทพร้อมข้าวสารอีก 100 กว่ากระสอบ(เมื่อปี ๒๕๑๘) ซึ่งทั้งหมดก็เป็นไปตามดั่งที่หลวงพ่อขาวท่านได้เคยบอกกล่าวไว้กับลูกศิษย์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ทุกๆประการ
🙏


* เรียบเรียงโดยอ้างอิงข้อมูลฯจาก  : หนังสือ อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูประจักษ์วรคุณ (หลวงพ่อขาว นีลวณฺโณ) ณ วัดประสพ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี วันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๘